วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552
วันที่รู้สึกท้อ
วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552
เลือกเดรสให้เหมาะกับรูปร่าง
สาว ๆ ที่ชื่นชอบการใส่เดรส แต่กลัวไม่สวย
1.สาวสะโพกใหญ่ : จำเป็นจะต้องเลือกเดรสที่เน้นให้เห็นส่วนคอดบริเวณเอว หรือเหนือเอวเล็กน้อย เพื่อดึงความสนใจจากสะโพก พร้อมกับเลือกเนื้อผ้าที่เป็นมันวาว ลื่น
2.สาวแขนเล็กลีบ : สาว ๆ สามารถปกปิดวงแขนที่เล็ก ด้วยการเลือกเดรสที่มีความยาวของแขนเสื้อราว ¾ ในรูปแบบคล้ายกับแขนเสื้อชุดกิโมโน หรือแขนกว้าง ที่มากับเดรสสไตล์เซ็กซี่
3.สาวร่างเล็ก : ควรหลีกเลี่ยงเดรสแนวน่ารัก เพราะยิ่งใส่ คุณจะดูคล้ายเด็ก สำหรับเดรสที่เหมาะกับคุณ จะต้องสวมเดรสเรียบ ๆ พร้อมกับสวมแจ๊กเก๊ตขนาดพอดีตัว
4.สาวอวบ ร่างท้วม : หากอยากจะใส่เดรสให้สวย คุณคงต้องเพิ่มความมั่นใจ เพราะเดรสที่เหมาะกับรูปร่างอวบอั๋น คือเดรสแขนกุด เนื้อผ้ามันวาว พอดีตัว แต่ไม่ถึงกับรัดรูปแนบเนื้อ
5.สาวขายาว : หุ่นสไตล์นางแบบ สูงชะลูดเช่นคุณ จะต้องเลือกเดรสยาวคลุมขา ที่ดูหรูหรา เซ็กซี่ เย้ายวนด้วยการตัดเย็บให้มีขนาดรัดรูปเฉพาะส่วนบนของเดรส
6.สาวไหล่กว้าง : จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกเดรสที่มีขลิบริมผ้าที่ขอบเดรส ขอบแขนเสื้อ รวมทั้งบริเวณคอเสื้อ ยกเว้นบริเวณช่วงไหล่ และควรเลือกแบบแขนเสื้อยาว
7.สาวไม่มีเอว : ในที่นี้ไม่ใช่สาวอ้วน แต่เป็นสาวทรงตรง ที่ต้องใส่เดรสผ้าหนา มีส่วนคอดเน้นเอวชัดเจน แถมยังต้องมีลูกเล่นในการตัดเจ็บใต้เอว ด้วยการจับจีบอ่อน ๆ เช่นเดียวกับบริเวณแขนเสื้อ
8.สาวอกใหญ่ : ให้เลือกเดรสคอวี คอเว้าลึก(ตามใจชอบ) หรือคอสี่เหลี่ยม ที่ไม่ติดบริเวณคอ เนื้อผ้าแบบลื่นมัน ไม่เน้นรัดรูป เพราะจะดูอึดอัด และหลีกเลี่ยงการใส่สร้อยคอ
9.สาวอกเล็ก : จะต้องหลอกสายตาด้วยการดึงดูดความสนใจมาที่หน้าอก โดยเลือกเดรสที่คล้ายกับแบ่งออกเป็น 2 ชิ้น ใส่เดรสมีส่วนเอวสูงถึงบริเวณใต้อก และต้องเข้ารูปให้เห็นส่วนคอด เพื่อเน้นทรงเต้า ด้วยสีเดรสส่วนบน-ล่างที่ต่างกัน
10.สาวผอมแห้ง : เพื่อไม่ให้ดูอ่อนแอ คุณควรเลือกเดรสที่มีลวดลายซิกแซก หรือลอดลายใหญ่เห็นชัดเจนที่เพิ่มมิติให้กับหุ่นบางๆ พร้อมกับแขนเสื้อยาว เสริมลูกเล่นให้กับเสื้อผ้าได้ด้วยเครื่องประดับ ลบความบอบบางของรูปร่าง
รับทราบคำแนะนำที่เจาะจงตามลักษณะรูปร่างกันแล้ว เห็นทีสาว ๆ คงเลือกเดรสให้เหมาะกับตัวคุณได้อย่างไร้กังวล!.
5 วิธีสวยสู้ฝน

ฝนตกกระหน่ำบ่อยๆ ในช่วงนี้ สาวๆ อาจจะต้องเจอปัญหาแต่งหน้าออกจากบ้านไม่ทันไรเดี๋ยวฝนก็จะมาพาเมกอัพสวยๆ ให้ได้เลอะเทอะ อดสวยกันพอดีและถ้าเลือกเครื่องสำอางชนิดดีๆ แล้วยังไม่พอ แพ็คเกจจิ้งหวานๆ ที่เลือกใช้ก็บอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความเป็นตัวตนของหญิงสาวได้เหมือนกัน
1 บอกลาอายแชโดว์ที่ลบเลือน
ถ้าอยากให้อายแชโดว์ชนิดผงหรือชนิดฝุ่นที่คุณใช้อยู่สามารถ ทนน้ำฝน ทนเหงื่อของคุณได้ละก็ลองแต่งแต้มเปลือกตา แบบเปียกดูบ้างสิ โดยใช้พู่กันจุ่มน้ำนิดหนึ่ง ไล้สีฝุ่นให้ทั่วปลายพู่กัน แล้วแตะพู่กันที่มือเล็กน้อย จึงค่อยทาสีอายแชโดว์บนเปลือกตาลุคที่ดู ธรรมชาติในหน้าฝน ใช้สีโทนน้ำตาลอ่อนไล้ทั่วเปลือกตาเน้นน้ำหนักสีที่บริเวณกระบอกตาและใช้น้ำตาลเข้มไล้แค่หางตาเล็กน้อยจะได้รูปตาสวยชัดเจนขึ้น
2 ขนตางอนเด้งทั้งวัน
บางครั้งมาสคาร่าที่เราซื้อมาก็ไม่ได้เป็นวอเตอร์ปรู๊ฟอย่างใจเราต้องการเลยว่ามั้ยคะ ตอนซื้ออยากให้ลองดู (ถ้าที่เคาน์เตอร์มีให้ดูเนื้อมาสคาร่าได้)ว่าเป็นมาสคาร่าชนิดกันน้ำ ปัดแล้วรู้สึกว่าน้ำหนักเบากับขนตาเราด้วย เวลาปัดอย่างน้อยต้อง 5 ครั้งขึ้นไป ถึงจะได้ขนตาแบบเซ็กซี่ ส่วนตอนดัดขนตาให้ใช้ที่ดัดแบบไฟฟ้า หนีบเบาๆ (ที่ดัดแบบปกติถ้าคนดัดไม่เป็นก็จะยากอีกล่ะ) แค่นี้ขนตาของคุณก็จะงอนเด้งไปทั้งวัน
3 สวยแรกแย้ม ด้วยแก้มสีธรรมชาติ
แก้มของแต่ละคนมีโครงหน้าที่ไม่เหมือนกัน บางคนแก้มยุ้ยอาจจะเห็นพวงแก้มง่ายหน่อยในการเกลี่ย ถ้าเป็นบลัชแบบฝุ่นเวลาทาแก้มให้ใช้พู่กันใหญ่เกลี่ยสีบลัชออน แล้วไล้บริเวณโหนกแก้มขึ้นไปถึงช่วงแนวกกหู หรือถ้าเป็น แบบครีมอาจจะใช้นิ้วนางแตะครีมแล้วแต้ม และเกลี่ยด้วยการแตะเบาๆ ให้สีบลัชออนกระจายทั่วผิว แบบนี้ง่ายและดูกลมกลืนดี
4 หอมฟุ้งด้วยกลิ่นสดชื่น
อาจจะเป็นเพราะว่าหน้าฝนทำให้เสื้อผ้าของคุณมีกลิ่นอับเพราะความเปียกชื้นของฝน ป้องกันไว้ก่อนด้วยทุกเช้าไม่ควรลืมฉีดพรมน้ำหอมกลิ่นที่คุณชอบก่อนออกจากบ้านทุกครั้งตามจุดชีพจรสำคัญ เช่น ซอกคอหนังแนวหู ข้อมือทั้งสองข้าง และที่บริเวณเนินอกเล็กน้อย เน้นแนวกลิ่นที่ติดทนนานหน่อย จะได้หอมมั่นใจตลอดทั้งวัน
5 หน้าสวยด้วยสีปาก
ดินสอเขียนขอบปากอาจจะช่วยให้ลิปสติกที่ทายังดูสดสวยนั่นก็จริง แต่เคล็ดลับการทาลิปสติกที่ทำให้หน้าแลดูสดใสนั้น เลือกสีส้มอมชมพูแดงนิดๆ ระบายทั่วริมฝีปาก จากนั้นใช้ลิปกลอสสีใกล้เคียงกันทาทับอีกครั้ง สีลิปสติกจะได้ติดทนกว่าการไม่ทาลิปกลอสซะเลย หรือถ้าไม่มีดินสอเขียนขอบปาก ใช้ครีมรองพื้นหรือคอนซีล-เลอร์ทาบนริมฝีปากบางๆ ก่อนทาลิปสติกก็ช่วยให้สีลิปสติกติดทนเหมือนกัน
ฮิตมากเลยกับแฟชั่นขนตาเด้งๆ หลังจากที่เคยลองขนตาปลอมกันมาแล้วหลายแบบหลายสไตล์ คราวนี้ลองมาใช้แพขนตายาวสีเข้ม ที่กลายเป็นเครื่องรางนำโชคแห่งดวงตา สลับสีฟ้า ชมพู เขียวอ่อน และ เหลือง แหม! สวยครบทุกสีแบบนี้ก็เสริมโหงวเฮ้งได้อีกนะเนี่ย วิธีใช้ก็ง่ายแค่ตัดความยาวที่ต้องการแล้วติด หรืออาจจะติดเฉพาะตรงหางตาก็จะดูเปรี้ยวไปอีกแบบ
วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552
29 สุดยอดอาหาร คงความอ่อนเยาว์

ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เรื่องของริ้วรอยเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้!! อยากให้ริ้วรอยลด
เลือนลงไป แถมมีกระดูกที่แข็งแรง และมีพลังมากกว่านี้บ้างมั้ยล่ะ ลองเติมสุด
ยอดอาหารเหล่านี้ลงในเมนูของคุณดูสิ...
สดใสดูอ่อนกว่าวัย Stay looking young
เพียงแค่เลือกรับประทานอาหารที่ว่ามาทั้งหมดนี้ เพียงอย่างน้อย 1 อย่าง เป็น
ประจำทุกวัน ก็จะช่วยให้เส้นผมดำขลับ เงางาม ผิวพรรณผุดผ่องและดวงตาเป็น
ประกาย
1. บลูเบอร์รี่ : จากผลการวิจัยพบว่า แอนโทไซยานิน (anthocyanin) สารเม็ด
สีในบลูเบอร์รี่ ช่วยในการมองเห็น ขอแนะนำให้คุณลอง ปั่นบลูเบอร์รี่รวมกับนมหรือโยเกิร์ตดู
2. พริกหยวก : ทั้งพริกแดง พริกเขียว และพริกเหลืองต่างมีสารแอนตี้ออกซิ
แดนท์ ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย น้ำฉ่ำๆ จากพริกหยวกยังจะช่วยให้สุขภาพ
เล็บแข็งแรง ลองนำพริกไปทำซัลซ่า โดยผสมเข้ากับมะเขือเทศ กระเทียม พริก
แดง แตงกว่า น้ำมันมะกอก และน้ำมะนาวดูสิ นอกจากจะได้ประโยชน์มหาศาล
จากเหล่าสุดยอดอาหารแล้ว ยังได้อร่อยกับเมนูเด็ดจากฝีมือของคุณเองอีก
3. กะหล่ำปลี : เห็นเขียวๆ ม่วงๆ อย่างนี้รู้มั้ยว่ากะหล่ำปลีนั้นอุดมไปด้วยวิตามิน
เอ, ซีและเบตาแคโรทีนที่จะช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เพียงหั่นกะหล่ำปลีบางๆ
แล้วนำลงไปผัดกับขิงและกระเทียม เพียงเท่านี้ก็ได้อาหารมื้อค่ำสำหรับตัวคุณเองแล้ว
4. วอลนัท : ทองแดงในวอลนัทช่วยคงสภาพสีผมของคุณไม่ให้เปลี่ยนสีก่อนวัย
อันควร ลองโรยวอลนัทลงบนสลัดหรือโยเกิร์ตก็ไม่เลวนะ
5. แอปริคอท : สารเบตาแคโรทีนในแอปริคอทช่วยชะลอการเสื่อมถอยของ
เลนส์ตา ช่วยในการมองเห็นได้ดี ใส่แอปริคอทลงไปในสตูว์ไก่ ผสมกับขิงและ
อบเชยให้ได้กลิ่นอายแบบโมร็อคโค
6. อะโวคาโด : การรับประทานอะโวคาโดช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน และปกป้อง
ผิวจากอันตรายที่เกิดจากแสงแดด เนื่องจากอะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินอี บด
อะโวคาโดโรยหน้าโอ๊ตเค้กเป็นของทานเล่นดูก็ได้
7. สตรอเบอร์รี่ : วิตามินซีและ สารบางอย่างในสตรอเบอร์รี่ช่วยเพิ่มความแข็ง
แรงของผนังเส้นเลือดผลไม้สีแดงสดทรงเสน่ห์แบบนี้ เพียงแช่เย็นไว้จิ้มกินกับ
เกลือตอนนั่งดูทีวีก็เพลินดีไม่น้อย
8. เต้าหู้ : หยุดยั้งผิวที่ซีดและแห้งโดยการรับประทานอาหารอย่าง เต้าหู้ เพราะ
ในเต้าหู้มีสารที่จะช่วยคืนสภาพผิวและป้องกันรอยเหี่ยวย่น ลองผัดรวมกับผัก
กรอบๆ หรือทำเป็นต้มจืดเอาไว้ทานเป็นมื้อเย็นนอกจากจะช่วยคืนสภาพผิวแล้ว
ยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
9. ข้าวโอ๊ต : เต็มไปด้วยเส้นใยที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยลด
อาการตึงเครียด จึงทำให้รอยเหี่ยวย่นน้อยลง เพียง โรยข้าวโอ๊ตลงบนมูสลี่ หรือ
นมอุ่นๆ ใส่น้ำตาลลงไปเล็กน้อยแค่นี้ก็ทานได้แล้ว กระชุ่มกระชวยเหมือนแรก
สาว Stay feeling young
10. กระเทียม : สมุนไพรกลิ่นแรงอย่างกระเทียมมีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย
ล้างพิษ และป้องกันไวรัสจากโรคภัยไข้เจ็บ ตั้งแต่ไข้หวัดไปจนถึงมะเร็ง อาหาร
ไทยส่วนใหญ่มีกระเทียมเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว
11. แครนเบอร์รี่ : ผลไม้มหัศจรรย์ช่วยต้านการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
จากงานวิจัยล่าสุดพบว่ายังช่วยป้องกันโรคเหงือก และแผลในช่องท้องได้ชะงัด
อีกด้วย อาจจะทำเป็นแยมไว้รับประทานกับขนมปังหรือทำเป็นซอสแครนเบอร์รี่
ไว้ทาไก่หรือเนื้อย่างก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน
12. ลินสีด : ช่วยลดอาการเจ็บตามข้อต่อ เพราะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่ร่าง
กายใช้ในการสร้างฮอร์โมนที่มีคุณสมบัติป้องกันอาการอักเสบ ลองเติมลงในน้ำ
ปั่นหรือโรยหน้าสลัดดูก็ได้นะ
13. กีวี : วิตามินซีและสารอาหารบางอย่างในกีวีช่วยในการไหลเวียน
ของออกซิเจน ลดปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ เช่น โรคหืด หอบ หั่นกีวีเป็นลูก
เต๋าเสียบไม้กับมะม่วงหรือกล้วย ทาด้วยน้ำผึ้ง แล้วนำไปย่าง อาจจะได้รสชาติ
แปลกใหม่ที่น่าลิ้มลอง
14. ลูกพลัม : อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยป้องกันการถูกทำลายของไขมันซึ่ง
เป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์สมอง นำลูกพลัมไปเคี่ยวกับน้ำส้ม และโรยลงไป
บนมูสลี่ หรือจะกินเล่น เป็นขนมขบเคี้ยวก็ไม่มีใครว่า
15. กล้วย : เป็นแหล่งรวมของโพแทสเซียม นอกจากกล้วยจะช่วยในเรื่องของ
ระบบการย่อยอาหารแล้วยังช่วยลดอาการท้องผูก แค่ผสมเข้ากับนม น้ำผึ้ง และ
อัลมอนด์ ก็จะได้อาหารเช้าที่แสนอร่อย
16. ส้ม : การรับประทานส้มทั้งผลแทนการดื่มน้ำส้มจะช่วยให้ได้รับสารอาหาร
อย่างเต็มที่ มิหนำซ้ำวิตามินซีในส้มยังช่วยป้องกันและเยียวยาโรคหวัด นอกจาก
นี้กากของส้มยังช่วยในเรื่องของการขับถ่ายด้วย
17. ข้าวกล้อง : ฮอตฮิต อินเทรนด์กันอยู่พักใหญ่ เพราะอุดมไปด้วยแร่แมงกานีส
ที่จะช่วยให้พลังงานกับร่างกายโดยการให้โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต และยังช่วย
เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย ใครที่ไม่ชอบสีจัดจ้านของข้าวกล้องก็สามารถ
หุงข้าวกล้องรวมกับข้าวสวยได้
18. มะเขือม่วง : เปลือกของมะเขือม่วงอุดมไปด้วยนาซูนิน (nasunin) ซึ่งมี
คุณสมบัติช่วยปกป้องสมองของคุณจากการถูกทำลาย เพื่อคงความฉลาดหลัก
แหลมของคุณไว้ ลองนำมะเขือม่วงไปทำแกง หรือรับประทานกับข้าวกล้องก็
อร่อยไม่เบา
แข็งแรงได้ใจ Stay healthy!
จากการศึกษาพบว่า อะไรก็ตามที่คุณรับประทานเข้าไป มีโอกาสที่จะทำให้โรค
ภัยไข้เจ็บต่างๆ ดีขึ้นได้ เช่น โรคมะเร็ง หรือโรคหัวใจ เพื่อให้อัตราการเสี่ยงของ
คุณลดน้อยลง ลองอาหารพวกนี้ดูสิ
19. ลูกพรุน : โพแทสเซียมในลูกพรุนช่วยลดคอเรสเตอรอลในเลือดและลดระดับ
ความดันเลือด ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคหัวใจ เสิร์ฟคู่กับ
โยเกิร์ตหรือกินเล่นเป็นของว่างก็ดี
20. คะน้า : ช่วยให้ตับของคุณผลิตเอ็นไซม์ในการต่อต้านมะเร็ง เมื่อคุณเคี้ยว
คะน้า จากการวิจัยพบว่าสามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม
ได้ ฮืม...ม เลือกผัดคะน้าปลาเค็ม เป็นเมนูมื้อกลางวันดีกว่า (อ้อ อย่าลืม
ทุบกระเทียมลงไปด้วยนะ)
21. ผักโขม : คุณจะได้รับแคลเซียมจากผักโขม ในขณะเดียวกันก็มีแมกนีเซียม
ที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณดูดซึมแคลเซียมได้ดี การรับประทานใบอ่อนของผัก
โขมในสลัด จะช่วยให้ป้องกันโรคกระดูกเปราะและหักง่ายเนื่องจากขาด
แคลเซียม
22. ราสเบอร์รี่ : จากผลการวิจัยพบว่าสารแอนตี้ออกซิเดนท์ในราสเบอร์รี่
สามารถยับยั้งการเกิดเนื้อร้ายได้ ลองนำราสเบอร์รี่ไปราดด้วยช็อกโกแลตเหลว
แล้วไปแช่เย็นดูสิ
23. ถั่วงอก : สารประกอบ ที่พบในถั่วงอก สามารถช่วยลดระดับไขมันในเส้น
เลือด นอกจากนี้ถั่วงอกยังประกอบด้วยสารอาหารในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยเรื่อง
โรคเล็กๆ น้อยๆ ของสตรีในวัยหมดประจำเดือนถั่วงอกผัดกับเต้าหู้ ทานกับข้าว
สวยร้อนๆ ก็อร่อยไม่เบา
24. บล็อคโคลี่ : การรับประทานบล็อคโคลี่เป็นประจำ จะช่วยลดอัตราเสี่ยงการ
เกิดโรคหัวใจได้ถึง20% และยังมีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันการปวดกล้ามเนื้อ ปวด
ตามข้อ และโรคไขข้ออักเสบได้ด้วย ลวกใส่ในสลัด หรือผัดกับกุ้งสดก็ไม่เลว
25. บีทรูท : เนื้อของบีทรูทอุดมไปด้วยเบต้าไซยานิน ซึ่งเป็นสารต่อต้านมะเร็ง
รับประทานโดยการนำไปตุ๋นหรือย่าง
26. องุ่นแดง : จะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดเลือดจับตัวเป็นก้อน และดักจับ
ไขมันในเลือดที่จะเป็นอันตรายต่อเส้นเลือดแดงของคุณ ใส่องุ่นแดงลงในสลัด
หรือดื่มไวน์แดงสักแก้วระหว่างมื้อค่ำ
27. ปลาที่มีไขมัน : แซลมอน หรือเนื้อปลาชนิดอื่นๆ ที่มีไขมันปนอยู่บ้างนั้น
สามารถช่วยปกป้องคุณจากโรคภัยไข้เจ็บมากมาย อีกทั้งโปรตีนในเนื้อปลายัง
ช่วยในเรื่องของสมอง ว่ากันว่าให้เด็กๆ กินปลาแล้วจะฉลาด ปลานึ่ง ปลาย่าง
ราดซอสอร่อยๆ ล้วนเป็นทางเลือกที่ดี
28. มะเขือเทศ : สารไลโคพีนี (lycopene) ในมะเขือเทศจะช่วยป้องกันการเกิด
มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่สำคัญช่วย
ให้ผิวสวยอย่าบอกใครเลยเชียวล่ะเลือกเอาเลยว่าคุณอยากจะใส่มะเขือเทศลงใน
อาหารอะไรบ้าง
29. หัวหอม : หัวหอมที่มีกลิ่นไม่หอมเหมือนชื่อนี้จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ทั้งยังช่วยในการรักษาและป้องกันโรคเบาหวาน ซอยเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ
ใส่ในไข่เจียว หรือซอยใส่อาหารประเภทยำช่วยเพิ่มรสชาติได้ดีทีเดียว
29 สุดยอดอาหาร คงความอ่อนเยาว์

ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เรื่องของริ้วรอยเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้!! อยากให้ริ้วรอยลด
เลือนลงไป แถมมีกระดูกที่แข็งแรง และมีพลังมากกว่านี้บ้างมั้ยล่ะ ลองเติมสุด
ยอดอาหารเหล่านี้ลงในเมนูของคุณดูสิ...
สดใสดูอ่อนกว่าวัย Stay looking young
เพียงแค่เลือกรับประทานอาหารที่ว่ามาทั้งหมดนี้ เพียงอย่างน้อย 1 อย่าง เป็น
ประจำทุกวัน ก็จะช่วยให้เส้นผมดำขลับ เงางาม ผิวพรรณผุดผ่องและดวงตาเป็น
ประกาย
1. บลูเบอร์รี่ : จากผลการวิจัยพบว่า แอนโทไซยานิน (anthocyanin) สารเม็ด
สีในบลูเบอร์รี่ ช่วยในการมองเห็น ขอแนะนำให้คุณลอง ปั่นบลูเบอร์รี่รวมกับนมหรือโยเกิร์ตดู
2. พริกหยวก : ทั้งพริกแดง พริกเขียว และพริกเหลืองต่างมีสารแอนตี้ออกซิ
แดนท์ ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย น้ำฉ่ำๆ จากพริกหยวกยังจะช่วยให้สุขภาพ
เล็บแข็งแรง ลองนำพริกไปทำซัลซ่า โดยผสมเข้ากับมะเขือเทศ กระเทียม พริก
แดง แตงกว่า น้ำมันมะกอก และน้ำมะนาวดูสิ นอกจากจะได้ประโยชน์มหาศาล
จากเหล่าสุดยอดอาหารแล้ว ยังได้อร่อยกับเมนูเด็ดจากฝีมือของคุณเองอีก
3. กะหล่ำปลี : เห็นเขียวๆ ม่วงๆ อย่างนี้รู้มั้ยว่ากะหล่ำปลีนั้นอุดมไปด้วยวิตามิน
เอ, ซีและเบตาแคโรทีนที่จะช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เพียงหั่นกะหล่ำปลีบางๆ
แล้วนำลงไปผัดกับขิงและกระเทียม เพียงเท่านี้ก็ได้อาหารมื้อค่ำสำหรับตัวคุณเองแล้ว
4. วอลนัท : ทองแดงในวอลนัทช่วยคงสภาพสีผมของคุณไม่ให้เปลี่ยนสีก่อนวัย
อันควร ลองโรยวอลนัทลงบนสลัดหรือโยเกิร์ตก็ไม่เลวนะ
5. แอปริคอท : สารเบตาแคโรทีนในแอปริคอทช่วยชะลอการเสื่อมถอยของ
เลนส์ตา ช่วยในการมองเห็นได้ดี ใส่แอปริคอทลงไปในสตูว์ไก่ ผสมกับขิงและ
อบเชยให้ได้กลิ่นอายแบบโมร็อคโค
6. อะโวคาโด : การรับประทานอะโวคาโดช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน และปกป้อง
ผิวจากอันตรายที่เกิดจากแสงแดด เนื่องจากอะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินอี บด
อะโวคาโดโรยหน้าโอ๊ตเค้กเป็นของทานเล่นดูก็ได้
7. สตรอเบอร์รี่ : วิตามินซีและ สารบางอย่างในสตรอเบอร์รี่ช่วยเพิ่มความแข็ง
แรงของผนังเส้นเลือดผลไม้สีแดงสดทรงเสน่ห์แบบนี้ เพียงแช่เย็นไว้จิ้มกินกับ
เกลือตอนนั่งดูทีวีก็เพลินดีไม่น้อย
8. เต้าหู้ : หยุดยั้งผิวที่ซีดและแห้งโดยการรับประทานอาหารอย่าง เต้าหู้ เพราะ
ในเต้าหู้มีสารที่จะช่วยคืนสภาพผิวและป้องกันรอยเหี่ยวย่น ลองผัดรวมกับผัก
กรอบๆ หรือทำเป็นต้มจืดเอาไว้ทานเป็นมื้อเย็นนอกจากจะช่วยคืนสภาพผิวแล้ว
ยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
9. ข้าวโอ๊ต : เต็มไปด้วยเส้นใยที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยลด
อาการตึงเครียด จึงทำให้รอยเหี่ยวย่นน้อยลง เพียง โรยข้าวโอ๊ตลงบนมูสลี่ หรือ
นมอุ่นๆ ใส่น้ำตาลลงไปเล็กน้อยแค่นี้ก็ทานได้แล้ว กระชุ่มกระชวยเหมือนแรก
สาว Stay feeling young
10. กระเทียม : สมุนไพรกลิ่นแรงอย่างกระเทียมมีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย
ล้างพิษ และป้องกันไวรัสจากโรคภัยไข้เจ็บ ตั้งแต่ไข้หวัดไปจนถึงมะเร็ง อาหาร
ไทยส่วนใหญ่มีกระเทียมเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว
11. แครนเบอร์รี่ : ผลไม้มหัศจรรย์ช่วยต้านการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
จากงานวิจัยล่าสุดพบว่ายังช่วยป้องกันโรคเหงือก และแผลในช่องท้องได้ชะงัด
อีกด้วย อาจจะทำเป็นแยมไว้รับประทานกับขนมปังหรือทำเป็นซอสแครนเบอร์รี่
ไว้ทาไก่หรือเนื้อย่างก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน
12. ลินสีด : ช่วยลดอาการเจ็บตามข้อต่อ เพราะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่ร่าง
กายใช้ในการสร้างฮอร์โมนที่มีคุณสมบัติป้องกันอาการอักเสบ ลองเติมลงในน้ำ
ปั่นหรือโรยหน้าสลัดดูก็ได้นะ
13. กีวี : วิตามินซีและสารอาหารบางอย่างในกีวีช่วยในการไหลเวียน
ของออกซิเจน ลดปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ เช่น โรคหืด หอบ หั่นกีวีเป็นลูก
เต๋าเสียบไม้กับมะม่วงหรือกล้วย ทาด้วยน้ำผึ้ง แล้วนำไปย่าง อาจจะได้รสชาติ
แปลกใหม่ที่น่าลิ้มลอง
14. ลูกพลัม : อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยป้องกันการถูกทำลายของไขมันซึ่ง
เป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์สมอง นำลูกพลัมไปเคี่ยวกับน้ำส้ม และโรยลงไป
บนมูสลี่ หรือจะกินเล่น เป็นขนมขบเคี้ยวก็ไม่มีใครว่า
15. กล้วย : เป็นแหล่งรวมของโพแทสเซียม นอกจากกล้วยจะช่วยในเรื่องของ
ระบบการย่อยอาหารแล้วยังช่วยลดอาการท้องผูก แค่ผสมเข้ากับนม น้ำผึ้ง และ
อัลมอนด์ ก็จะได้อาหารเช้าที่แสนอร่อย
16. ส้ม : การรับประทานส้มทั้งผลแทนการดื่มน้ำส้มจะช่วยให้ได้รับสารอาหาร
อย่างเต็มที่ มิหนำซ้ำวิตามินซีในส้มยังช่วยป้องกันและเยียวยาโรคหวัด นอกจาก
นี้กากของส้มยังช่วยในเรื่องของการขับถ่ายด้วย
17. ข้าวกล้อง : ฮอตฮิต อินเทรนด์กันอยู่พักใหญ่ เพราะอุดมไปด้วยแร่แมงกานีส
ที่จะช่วยให้พลังงานกับร่างกายโดยการให้โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต และยังช่วย
เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย ใครที่ไม่ชอบสีจัดจ้านของข้าวกล้องก็สามารถ
หุงข้าวกล้องรวมกับข้าวสวยได้
18. มะเขือม่วง : เปลือกของมะเขือม่วงอุดมไปด้วยนาซูนิน (nasunin) ซึ่งมี
คุณสมบัติช่วยปกป้องสมองของคุณจากการถูกทำลาย เพื่อคงความฉลาดหลัก
แหลมของคุณไว้ ลองนำมะเขือม่วงไปทำแกง หรือรับประทานกับข้าวกล้องก็
อร่อยไม่เบา
แข็งแรงได้ใจ Stay healthy!
จากการศึกษาพบว่า อะไรก็ตามที่คุณรับประทานเข้าไป มีโอกาสที่จะทำให้โรค
ภัยไข้เจ็บต่างๆ ดีขึ้นได้ เช่น โรคมะเร็ง หรือโรคหัวใจ เพื่อให้อัตราการเสี่ยงของ
คุณลดน้อยลง ลองอาหารพวกนี้ดูสิ
19. ลูกพรุน : โพแทสเซียมในลูกพรุนช่วยลดคอเรสเตอรอลในเลือดและลดระดับ
ความดันเลือด ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคหัวใจ เสิร์ฟคู่กับ
โยเกิร์ตหรือกินเล่นเป็นของว่างก็ดี
20. คะน้า : ช่วยให้ตับของคุณผลิตเอ็นไซม์ในการต่อต้านมะเร็ง เมื่อคุณเคี้ยว
คะน้า จากการวิจัยพบว่าสามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม
ได้ ฮืม...ม เลือกผัดคะน้าปลาเค็ม เป็นเมนูมื้อกลางวันดีกว่า (อ้อ อย่าลืม
ทุบกระเทียมลงไปด้วยนะ)
21. ผักโขม : คุณจะได้รับแคลเซียมจากผักโขม ในขณะเดียวกันก็มีแมกนีเซียม
ที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณดูดซึมแคลเซียมได้ดี การรับประทานใบอ่อนของผัก
โขมในสลัด จะช่วยให้ป้องกันโรคกระดูกเปราะและหักง่ายเนื่องจากขาด
แคลเซียม
22. ราสเบอร์รี่ : จากผลการวิจัยพบว่าสารแอนตี้ออกซิเดนท์ในราสเบอร์รี่
สามารถยับยั้งการเกิดเนื้อร้ายได้ ลองนำราสเบอร์รี่ไปราดด้วยช็อกโกแลตเหลว
แล้วไปแช่เย็นดูสิ
23. ถั่วงอก : สารประกอบ ที่พบในถั่วงอก สามารถช่วยลดระดับไขมันในเส้น
เลือด นอกจากนี้ถั่วงอกยังประกอบด้วยสารอาหารในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยเรื่อง
โรคเล็กๆ น้อยๆ ของสตรีในวัยหมดประจำเดือนถั่วงอกผัดกับเต้าหู้ ทานกับข้าว
สวยร้อนๆ ก็อร่อยไม่เบา
24. บล็อคโคลี่ : การรับประทานบล็อคโคลี่เป็นประจำ จะช่วยลดอัตราเสี่ยงการ
เกิดโรคหัวใจได้ถึง20% และยังมีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันการปวดกล้ามเนื้อ ปวด
ตามข้อ และโรคไขข้ออักเสบได้ด้วย ลวกใส่ในสลัด หรือผัดกับกุ้งสดก็ไม่เลว
25. บีทรูท : เนื้อของบีทรูทอุดมไปด้วยเบต้าไซยานิน ซึ่งเป็นสารต่อต้านมะเร็ง
รับประทานโดยการนำไปตุ๋นหรือย่าง
26. องุ่นแดง : จะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดเลือดจับตัวเป็นก้อน และดักจับ
ไขมันในเลือดที่จะเป็นอันตรายต่อเส้นเลือดแดงของคุณ ใส่องุ่นแดงลงในสลัด
หรือดื่มไวน์แดงสักแก้วระหว่างมื้อค่ำ
27. ปลาที่มีไขมัน : แซลมอน หรือเนื้อปลาชนิดอื่นๆ ที่มีไขมันปนอยู่บ้างนั้น
สามารถช่วยปกป้องคุณจากโรคภัยไข้เจ็บมากมาย อีกทั้งโปรตีนในเนื้อปลายัง
ช่วยในเรื่องของสมอง ว่ากันว่าให้เด็กๆ กินปลาแล้วจะฉลาด ปลานึ่ง ปลาย่าง
ราดซอสอร่อยๆ ล้วนเป็นทางเลือกที่ดี
28. มะเขือเทศ : สารไลโคพีนี (lycopene) ในมะเขือเทศจะช่วยป้องกันการเกิด
มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่สำคัญช่วย
ให้ผิวสวยอย่าบอกใครเลยเชียวล่ะเลือกเอาเลยว่าคุณอยากจะใส่มะเขือเทศลงใน
อาหารอะไรบ้าง
29. หัวหอม : หัวหอมที่มีกลิ่นไม่หอมเหมือนชื่อนี้จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ทั้งยังช่วยในการรักษาและป้องกันโรคเบาหวาน ซอยเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ
ใส่ในไข่เจียว หรือซอยใส่อาหารประเภทยำช่วยเพิ่มรสชาติได้ดีทีเดียว
เลือกสียาทาเล็บอย่างไรดี

แต่งสวย...ให้เป็น
อาทิตย์นี้ เราจึงได้นำวิธีการเลือกเครื่องประดับ เพื่อให้เข้ากับการแต่งตัวมาฝากกัน เพื่อว่าคุณๆจะได้หยิบเครื่องประดับชิ้นสวย มาใส่ได้อย่างเหมาะสมไงล่ะค่ะ
เรื่องกาลเทศะ เป็นสิ่งที่คุณ มองข้ามไม่ได้ ก่อนอื่น คงต้องมาพิจารณาดูกันสักนิด ว่าเครื่องประดับที่คุณเลือกนั้น เหมาะสมกับสถานที่ และโอกาสหรือไม่ จงอย่าคิดแต่เพียงว่า "ฉันจะใส่" แค่เพราะความ"อยาก"เท่านั้น
เครื่องประดับสำหรับใส่ไปทำงาน
จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องเลือกแบบของเครื่องประดับ ที่ดูเรียบร้อย ไม่ใหญ่มาก และไม่ดูเป็นแฟนซีมากจนเกินไป แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับ หน้าที่การงานของคุณอีกนั่นล่ะ เพราะถ้าอาชีพของคุณคือ สาวนักประชาสัมพันธ์หรือ นางแบบ ก็น่าอิจฉาเป็นที่สุด เพราะ สามารถเลือกใส่สร้อย หรือต่างหูเก๋ๆ ที่เน้นดีไซน์และขนาดใหญ่หน่อยได้
แต่ถ้าคุณเป็นสาวออฟฟิศทั่วไปละก็ เราไม่แนะนำ ให้คุณใส่อะไร ที่หวือหวา เพราะแค่สร้อยที่ดูโดดเด่น เปรี้ยวๆ หรือแผงสร้อยเพชรเส้นโตๆ เพียงเส้นเดียว ก็อาจทำให้ คุณโดนเจ้านายเพ็งเล็งอย่างไร้เหตุผลได้
ควรจำไว้สักนิดว่า ไม่มีใครอยากให้คุณเด่นเกินหน้าหรอก โดยเฉพาะ ถ้าคุณยังอยู่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ถ้าอยากใส่ ก็ควรหันมาใช้เครื่องประดับ แบบเรียบๆ ดูคลาสสิค จะเหมาะสมกว่า ที่สำคัญ ยังทำให้คุณสวยขึ้นไม่แพ้การใส่เครื่องประดับชิ้นโตๆเลยค่ะ
เครื่องประดับสำหรับออกงาน
งานกลางวัน
สำหรับงานกลางวัน อย่างงานเลี้ยงคอกเทลหรือปาร์ตี้ในสวน คุณควรเลือกแบบตุ้มหูหรือสร้อย ขนาดกลางๆ เครื่องประดับที่หรูหราหรือ"เว่อร์"จนเกินไป อย่างพวกสร้อยทองล้อมเพชร 18 กะรัต หรือสร้อยที่ประดับโคตรเพชร ไม่เหมาะอย่งยิ่งค่ะ …ขอบอก เว้นเสียแต่ว่า งานที่คุณไปนั้น จัดขึ้นอย่างหรูหรา และแฝงไว้ด้วยการประชันขัน แข่งเครื่องเพชรโดยเฉพาะ
งานกลางคืน
เป็นช่วงเวลาที่บรรดาสาวๆ ชอบที่สุด เพราะสามารถแต่งกายได้ -เริ่ดอลังการ- เท่าที่ใจอยากจะ -เริ่ด- ฉะนั้น คงไม่ใครว่าหรอก ถ้าคุณจะหยิบเครื่องประดับที่หรูหรา และใหญ่โต มาใส่อวดโฉมให้ใครๆอิจฉา แต่จะออกมาสวยหรือไม่อย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า แบบเสื้อกับเครื่องประดับที่คุณเลือกใส่ เข้ากันหรือเปล่า อย่างเช่น ถ้าชุดของคุณเป็นแบบเรียบๆ ธรรมดาๆ เครื่องประดับก็ควรเป็นอะไรที่เล็กๆน่ารัก กระจุ๋มกระจิ๋ม ถ้าคุณเป็นคนแต่งตัวตามสมัย เปรี้ยวจี๊ดชนิดมะนาวยอมแพ้ แน่นอนค่ะ เครื่องประดับก็ควรเป็นแบบแฟชั่น เปรี้ยวจี๊ดเช่นกัน
เลือกเครื่องประดับตามแบบเสื้อ
เสื้อคอกว้าง
เป็นแบบเสื้อ สำหรับผู้ที่ต้องการโชว์ความเซ็กซี่เล็กๆ ดังนั้นถ้าได้เสริมเสน่ห์ด้วยสร้อยคอ ที่ประดับ ด้วยจี้เล็กๆ อย่างรูปหัวใจ รูปหยดน้ำ หรือแบบที่มีดีไซน์สวยเก๋สักเส้น ก็จะช่วยเสริมให้ชุดของคุณนั้ ดู ไม่โล่งจนเกินไป และยังทำให้คุณดูเท่ขึ้นอีกด้วย
เสื้อสายเดี่ยวและเสื้อเปิดไหล่
คุณสามารถ เลือกใส่เครื่องประดับ ได้สารพัดแบบค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสร้อยหนัง จี้เล็กๆ ที่ประดับประดา ด้วยลูกปัด หรือดอกไม้ดอกเล็กที่น่ารักน่าเอ็นดู หรือสร้อยแบบติดคอ สักเส้นก็เก๋ไม่เบาเชียวล่ะ
เสื้อคอปีนหรือคอเต่า
จริงๆแล้ว คุณไม่จำเป็น ที่จะต้องใส่สร้อยคอ หรือเครื่องประดับอื่นใด แต่ถ้าต้องการ เพิ่มความเด่นให้ตัวเสื้อละก็ คุณสามารถเพิ่มความเก๋ไก๋ ได้ด้วย สร้อยชนิดเส้นยาว ที่มีจี้ ขนาดใหญ่หน่อยได้ค่ะ
เห็นไหมค่ะ ว่าการแต่งตัวให้ดูดี และเหมาะสมนั้นไม่ยากเลย เพียงแต่ต้องอาศัยเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ที่บางครั้งคุณเองอาจมองข้าม และเมื่อแต่งตัวสวย แล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพและความงามของคุณให้สวยพร้อมด้วยนะคะ เพื่อที่ว่า คุณจะได้เป็นเจ้าของความสวยสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
เคล็ดลับความงามจ๊าาา...

เคยได้ยินกันมานานแล้วหละค่ะว่าน้ำผึง ช่วยบำรุงความงามให้กับสาว ๆ รักสวยได้ บางคนก็เคยได้รับคำแนะนำให้เอาน้ำผึ้งมาล้างหน้า มาพอกหน้า และอีกมากมาย
ก็ในน้ำผึงน่ะ เข้าวิจัยกันมาแล้วว่า มันมีสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ ช่วยชลอการเสื่อมสภาพของเซลได้ แต่จริง ๆ แล้ว การนำน้ำผึ้งมาใช้ ก็ต้องมีสูตรเหมือนกันนะคะ ทั้งสำหรับใบหน้า ผิวกายและเส้นผมเลยทีเดียวค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
น้ำผึ้งสำหรับผิวหน้า
Moisture Mask สูตร 1 ให้ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ กับนมสด 2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน นำมาทาทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เหมาะสำหรับคนผิวแห้งค่ะ
Moisture Mask สูตร 2 บดกล้วยหอม และน้ำผึ้งเข้าด้วยกัน นำมาพอกทั้งหน้า และผม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า และมำให้ผมนิ่มสลวย มีชีวิตชีวามากขึ้น
Facial mask นำแอปเปิลปอกเปลือก ปั่นรวมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ นำมาทาทั่วผิวหน้า แล้วนวดเบา ๆ ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จะช่วยขจัดเซลเก่า และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งสดใส
Honey Cleaning Scrub ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ กับจมูกข้าวสาลี 2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน นำมาทาให้ทั่วผิวหน้าแล้วนวดเบา ๆ ช่วยขจัดเซลผิวเก่า และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เหมาะกับผิวที่มีริ้วรอย และจุดค่างดำ
น้ำผึ้งสำหรับผิวกาย
Smoothing Skin Lotion ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 1 ช้อนชาและน้ำมะนาวอีก 1 ช้อนชา นำมาขัดเบา ๆ ที่ข้อศอก มือ หัวเขา และส้นเท้า ซึ่งเป็นส่วนที่แห้งกร้านได้ง่าย จะช่วยให้ผิวนุ่มนวลและสดใสขึ้น
น้ำผึ้งสำหรับผม
Hair Conditioner ผสมน้ำผึ้ง 2 ถ้วย กับน้ำมันมะกอก 1 ถ้วย แต่ถ้าเป็นผมธรรมดาให้ใช้น้ำมันมะกอกเพียง 2 ช้อนโต๊ะ นำมานวดให้ทั่วศีรษะ แล้วคลุมด้วยหมวกอาบน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วสระผมตามปกติ จะทำให้ผมมีน้ำหนัก นุ่มสลวย
Hair Shine ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และน้ำมะนาว 1 ช้อนชา ในน้ำอุ่น 4 ถ้วย แล้วนำมาชโลมผมให้ทั่วหลังสระเสร็จใหม่ ๆ จะช่วยล้างมลพิษที่เกาะจับผม และทำให้เส้นผมมีประกายเงางาม
ก็นี่หละค่ะ ประโยชน์ของน้ำผึ้ง และถ้าใครกระหายคอแห้ง ก็อาจจะนำไปผสมน้ำมะนาวดื่ม ก็สดชื่นดีนะคะ
เคล็ดลับหุ่นสวยที่อยากจะบอก

สำหรับสาว ๆ ที่ห่วงเรื่องน้ำหนักตัวทั้งหลาย จะให้ความสำคัญกับเรื่องของแคลอรี่มาก ๆ ค่ะ อะไรนิดอะไรหน่อยที่เขาว่า โลว์ แคลอรี่ ก็รีบไปซื้อไปหามากินกัน อะไรที่ไม่มีป้ายแคลอรี่ต่ำ ก็แทบจะไม่แตะต้องเอาเสียเลย แต่จริง ๆ แล้ว เราสามารถควบคุมแคลอรี่ของเราได้ ไม่เฉพาะการรับประทานค่ะ แต่เราควรจะให้ความสำคัญกับการเผาผลาญแคลอรี่ของร่างกายเราด้วย มาดูกันค่ะว่า กิจกรรมอะไรที่จะช่วยคุณได้บ้าง
ปั่นจักรยาย : ประมาณสัก 10 นาที อย่างต่อเนื่อง จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ 100 แคลอรี่ค่ะ ยิ่งถ้าใครมีเด็กอยู่ที่บ้านล่ะก็ดีเลย พาเขาไปสูดอากาศ ปั่นจักรยานด้วยกัน ช่วยยืดเส้นยืดสายกล้ามเนื้อขา พร้อม ๆ กับสร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจค่ะ
วีดีโอออกกำลังกาย : ทำตามสัก 10-15 นาที สัก 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่พร้อม ๆ กับสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ ๆ ให้คุณไม่รู้สึกเบื่อ
เดิน : ประมาณ 15 นาที ง่าย และเบสิกมาก ๆ อย่างน้อยใน 1 สัปดาห์ คุณควรหาโอกาสเดินเล่นสักครั้ง แค่ 15 นาที ก็เผาผลาญแคลอรี่ได้ 100 แคลอรี่ค่ะ
กระโดด : เช่นการกระโดดเชือก ประมาณ 15 นาที นอกจากจะเผาผลาญแคลอรี่แล้ว ยังดีต่อปอด หัวใจ และขา เวลาทำให้ทำอย่างรวดเร็วและเข้มแข็ง รับรองคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกายรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
จ๊อกกิ้ง : ประมาณ 15 นาที ในครั้งแรก ๆ และค่อย ๆ เพิ่มครั้งละ 1-2 นาที ถ้าสามารถทำได้วันละ 2 ครั้ง จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ 300 แคลอรี่ต่อวันค่ะ
ขึ้นบันได : ประมาณ 15 นาที พยายามใช้ให้บ่อย แทนการขึ้นลิฟต์ ทั้งที่บ้านและที่ทำงานค่ะ
เต้นรำ : 20 นาที แต่ไม่ต้องถึงขึ้นไปตามผับหรอกนะคะ เต้นไปรอบ ๆ ห้องนอนหรือที่บ้านก็พอแล้วค่ะ จะช่วยให้เลือดสูบฉีดได้ดีขึ้น และอารมณ์ก็จะดีขึ้นด้วย
ทำงานบ้าน : วิธีนี้ ได้ทั้งบ้านสะอาด ทั้งการเผาผลาญแคลอรี่อย่างดีเยี่ยมค่ะ ทุก ๆ 20 นาที จะเผาผลาญแคลอรี่ได้ 100 แคลอรี่ค่ะ
ล้างรถ : ใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที ก็พอค่ะ ไม่ต้องไปเสียเงินใช้บริการตามสถานที่ล้างรถต่าง ๆ ด้วย ค่ะ ยิ่งถ้าบ้านไหนมีรถหลายคัน รับรองค่ะ ผอมแน่
ใส่กางเกงเอวต่ำยังไงให้สวย

อย่างไรก็ตาม เราไม่รู้หรอกว่ากางเกงดังกล่าวจะใส่แล้วสวยสมคำร่ำลือแค่ไหน แต่วันนี้ มีคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับกางเกงเอวต่ำมาฝากกัน
:: ถ้าคิดจะเริ่มซื้อกางเกงเอวต่ำ ก็อย่าลืมหาซื้อกางเกงในเอวต่ำมาใส่แทนกางเกงในธรรมดาที่ใช้อยู่ เพราะการโชว์กางเกงชั้นในเอาสูงๆ ให้แลบออกมานอกกางเกง เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะมันคือสิ่งบ่งบอกความไร้รสนิยมได้ชัดเจนที่สุด
:: ถ้ากางเกงเอวต่ำของคุณฟิตเข้ารูปจนเห็นรอยกางเกงชั้นใน เราก็ขอแนะนำอีกหน่อยว่าให้ซื้อจี-สตริงเอวต่ำจะดีกว่าให้เห็นรอยขอบกางเกงในนะคะ
:: กางเกงเอวต่ำเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีสะโพก เพราะจะช่วยทำให้สะโพกดูผายขึ้น
:: กางเกงเอวต่ำจะดูดีและสวยเมื่อขากางเกงยาวเลยตาตุ่มออกไป ไม่ควรสวมกางเกงขาเต่อๆ ยกเว้นกางเกงเอวต่ำ 3 ส่วนหรือ 5 ส่วน
:: ก็รู้ทั้งรู้ว่าเป็นกางเกงเอวต่ำ ดังนั้นหน้าท้องเป็นอะไรที่ต้องดูแลเสมอ อย่าปล่อยให้พุงกะทิยื่นออกมาเป็นอันขาด ทางทีดีไม่มั่นใจหน้าท้องก็ควรสวมเสื้อปิดพุงเล็กน้อย
:: สำหรับสาวที่หน้าท้องราบ อย่างกับนางแบบคิดจะสวมเสื้อเอวต่ำโชว์ดือ ก็ควรทำความสะอาดสะดือสักหน่อยอย่าปล่อยให้มันดูสกปรก เหมือนไม่เคยแคะเลยตั้งแต่เกิดจากท้องแม่ ถ้าไม่เคยล้างจริงๆขอแนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมสบู่เช็ดเบาๆ จนสะอาดเป็นประจำ
:: กางเกงเอวต่ำบางตัวผลิตด้วยเนื้อผ้าที่ลื่น และอาจหลุดลงมาได้ เวลาที่เราเดินบ่อยๆ และยิ่งผ้าลื่นๆ หนักๆ กับคนที่สะโพกไม่ค่อยมีละก็ต้องระวัง เอาอย่างนี้ละกันถ้าคิดจะสวมกางเกงเอวต่ำแต่กลัวหลุด หรืออายกางเกงในก็คงต้องสวมเข็มเข็ดเก๋ๆ สักเส้น โดยเข็มขัดจะต้องอยู่ในหูกางเกงด้วยนะ
:: กางเกงเอวต่ำที่ไม่มีหูกางเกง ลองหาเข็มขัดถัก หรือเชือกเก๋ๆ พันไว้ก็ดีไม่ใช่น้อย
:: กางเกงเอวต่ำจะดูน่ารักจริงๆ ถ้าใส่เข้ากับเสื้อที่มีชายเป็นรูปโค้งมน เปิดให้เห็นข้างๆ เอว เป็นคำแนะนำที่ดีมาก ลองนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวคุณเอง รับรองว่าจะทำให้คุณใส่กางเกงเอวต่ำแล้วดูดีกว่าเดิมเยอะเลย!!!
วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
เทคนิคการแต่งตัวให้ดูดี
เทคนิค การแต่งตัวให้ดูดี1.สาวขาใหญ่ 2.สาวมีพุง 3.สาวเอวหนา 4.สาวสะโพกใหญ่ 5.สาวอ้วน หากอยากดูเพรียว 6.สาวขาสั้น 7.สาวผอม
ผู้หญิงเราจำนวนไม่น้อยที่มีสรีระร่างกายบางส่วนไม่สวยมักประสบปัญหาการสวมใส่เสื้อผ้า บางทีเสื้อผ้าสวยงาม ยี่ห้อดี ๆ แต่พอซื้อมาใส่เองกลับดูไม่ได้เลย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เสื้อผ้า แต่อยู่ที่การเลือกชุดให้เข้ากันและการรู้จักตกแต่งเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือคำแนะนำบางส่วนที่สามารถช่วยคุณผู้อ่านที่มีปัญหานี้ได้ค่ะ หน้าอกเล็กลงด้วยเสื้อผ้าสีเข้ม ลดขนาดต้นแขนด้วยเสื้อแขน 3 ส่วน ก้นกระชับด้วยกางเกงรัดรูปสีดำ ขาสวยด้วยกระโปรงสีโทนอ่อน เสื้อ - เสื้อแขนกุดไม่เหมาะกับคนอ้วน
- สะโพกใหญ่ควรสวมกระโปรงยาวระดับหัวเข่า เข้ารูปไม่ต้องบานนัก
- ถ้าอ้วนไม่ควรสวมกางเกงเอวรูด จะยิ่งดูอ้วนขึ้น |
วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552
คอเสื้อแบบไหนใส่แล้วสวย
สาวที่มีไหล่แคบและสาวสะโพกสะบึมเหมาะกับเสื้อคอปาดมาก เพราะจะช่วยทำให้ไหล่ดูกว้างและสะโพกดูสมดุลขึ้น เสื้อคอปาดยังเหมาะกับสาวที่มีรูปหน้ารูปหัวใจ สาวคอยาวและเหมาะกับทั้งสาวหน้าอกเล็กและหน้าอกใหญ่ด้วย แต่ไม่เหมาะกับสาวคอสั้น คอใหญ่ และสาวไหล่กว้าง
เสื้อคอกลมสูง (Crewneck)
คอเสื้อแบบนี้เหมาะกับสาวคอยาว ส่วนสาวๆที่รู้ตัวว่าคอสั้น คอสองชั้น หรือมีหน้าอกใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงที่จะใส่เสื้อคอกลมสูง
เสื้อคอวี (V-neck)
เสื้อคอวีเหมาะกับสาวๆแทบทุกรูปร่าง ใส่แล้วจะช่วยให้ดูเพรียวขึ้น และถ้าคอยิ่งลึกเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้ดูหุ่นเพรียวมากขึ้นเท่านั้น เหมาะกับสาวหน้าอกใหญ่ หน้ากลม สาวหน้าอกเล็กใส่ก็ดูดีและหากคุณเป็นสาวไหล่แคบหรือมีหุ่นทรงลูกแพร์ ใส่เสื้อคอวีกว้างจะดูสวยมาก แต่สำหรับสาวที่คอยาวมากๆไม่ควรใส่เสื้อแบบนี้ เพราะเดี๋ยวคนอื่นจะนึกว่ากะเหรี่ยงคอยาวเพิ่งลงมาจากยอดดอยไม่รู้ด้วยนะคะ
เสื้อคอกลมลึก (Scoop)
เสื้อคอกลมลึกกว้างแบบนี้เหมาะกับสาวไหล่แคบหรือสาวหุ่นทรงลูกแพร์เป็นอย่างยิ่ง คอเสื้อแบบนี้ยังช่วยให้สาวคอสั้นดูมีลำคอระหงมากขึ้น ช่วยให้ดูหน้าอกเล็กลง ทั้งยังเหมาะกับสาวหน้ายาวและหน้าแหลมอีกด้วย
เสื้อคอเหลี่ยม (Square)
สาวคนไหนที่รู้สึกไม่มั่นใจกับสะโพกกว้างๆของตัวเอง ลองหาเสื้อคอสี่เหลี่ยมมาใส่ดูสิ จะช่วยให้หุ่นของคุณดูสมดุลขึ้น ทั้งยังช่วยให้คอดูยาวขึ้น (เหมือนกับเสื้อคอกลมลึก) แต่คอเสื้อแบบนี้ไม่เหมาะกับสาวไหล่กว้างและสาวที่มีหน้าอกใหญ่
เสื้อคอเต่า (Turtleneck)
เสื้อคอเต่ามีข้อดีตรงที่เมื่อใส่แล้วจะช่วยให้ลำตัวดูยาวขึ้น ทำให้สาวที่ตัวไม่สูงนักดูตัวสูงขึ้นได้ และคอสองชั้นควรเซย์โนเสื้อคอเต่าไปได้เลย
9 แฟชั่นต้องห้ามในออฟฟิศ

แฟชั่นชุดชั้นใน
เห็นกันเกลื่อนเมืองกับแฟชั่นโชว์บรา ตั้งแต่โชว์สายบราสีสวย
ไปจนถึงโชว์หน้าอกหน้าใจกันเห็น ๆ จะว่าไปแต่งตัวแบบนี้ไปเที่ยวนั้นก็ล่อ
แหลมอยู่แล้ว ถ้าคุณกล้าขนาดใส่ไปทำงานยิ่งแล้วใหญ่ แน่นอนว่ามัน
จะทำให้คุณดูเป็นแม่สาวเซ็กซี่ในสายตาหนุ่ม ๆ แต่พวกเขาก็จะมองว่าคุณก็แค่
สาวเซ็กชี่ไร้สมองนั่นแหละ ดังนั้นถ้าอยากได้รับการนับถือ ก็เลิกซะเถอะ
สั้นระเบิดเถิดเทิง
รู้ค่ะว่าปีนี้เทรนด์สั้นมาแรง แต่ลองคิดตรองดูง่าย ๆ ก็จะรู้ว่า
แฟชั่นมันโก้เก๋ดีสำหรับโชว์เท่านั้นแหละ แต่ถ้าคุณนุ่งสั้นมาทำงานแล้วมัน
จะสะดวกสัก แค่ไหน คนทำงานมักต้องลุกนั่งบ่อยครั้ง เดินไปมาทั้งวัน
จะดีหรือที่คุณจะใส่กระโปรงสั้นกุดล่อสายตารอบกายให้คอยลุ้นระทึกว่า
อะไรต่ออะไรมันจะ โผล่มาโชว์หรือไม่ รอยสักสุดเก๋า
ใคร ๆ ก็บอกว่าการสักเป็นสิทธิส่วนบุคคล และเป็นดั่งงานศิลปะชั้นสูง
แต่ถ้าคุณริจะทำงานในออฟฟิศแล้วล่ะก็ คุณก็ควรจะนึกถึงใจนายจ้างและเพื่อน
ร่วมงานด้วยว่าพวกเขาจะคิดเช่นไรและคุณควรคิดให้ดีถึงตำแหน่งที่ตั้งของรอยสัก
ควรเป็นจุดที่คุณสามารถปกปิดได้ด้วยเสื้อผ้าเพราะวันใดที่ต้องไป
งานแบบเป็นทางการแล้วคุณจะสามารถซ่อนมันเอาไว้ได้
ทรงผมเปรี้ยวซ่า
คุณสามารถตามแฟชั่นผมได้อย่างเต็มที่แต่ควรระลึกถึงกาลเทศะไว้
เป็นสำคัญด้วยอย่าให้ถึงขนาดทำผมสีแดงจ้า ทำไฮไลท์สีรุ้งเจ็ดสี หรือทำผม
พังค์ชี้ไปมาทุกทิศทาง เลือกทรงผมให้อินเทรนด์ในระดับที่คนทั่วไปรับได้
และเลือกสีสันให้เหมาะสม พร้อมจัดทรงให้ดูเป็นผู้เป็นคนหน่อยในวันทำงาน
ตกถังน้ำหอม
การรักษากลิ่นกายให้หอมอยู่เสมอเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับบุคลิกภาพ แต่ควรจะเป็น
หอมละมุนแบบอ่อน ๆ ในลักษณะชวนให้รื่นรมย์ไม่ใช่ประโคมใส่ น้ำหอมราวตก
ถังน้ำหอมจนคนรอบตัวฉุนจนมึนหัว เลือกกลิ่นหอมเย็น ๆ แนวสปอร์ตสำหรับผู้ชาย
และผู้หญิงอาจเลือกกลิ่นที่ออกแนวหวานใส ๆ โดย แตะน้ำหอมแต่เพียงน้อย
เพื่อเสริมบุคลิกให้ดีมากยิ่งขึ้น
ก๋ากั่นเล็บแฟนซี
ความสะอาดเรียบร้อยของเล็บเป็นเรื่องจำเป็น คุณจะต่อเล็บหรือทาสีเปรี้ยวแค่ไหน
ก็ไม่มีใครว่า ตราบเท่าที่คุณไม่ได้ต่อเล็บจนยาวเกะกะสายตา หรือ ทาสีดิบเถื่อนชวนให้ผวา
ลองคิดดูว่า ถ้าคุณใช้นิ้วซึ่งมีเล็บสุดแฟนชีในการชี้ข้อมูลในการประชุม ใครเล่าจะสามารถ
ตั้งใจฟังการพรีเซนต์ของคุณได้ ร้อยเปอร์เซนต์ เชื่อสิว่าใคร ๆ ก็จะคอยนั่งจ้องเล็บ
ของคุณมากกว่า
หนวดเครารกเฟิ้ม
หนวดเคราหลากหลายรูปแบบที่ผู้ชายนิยมไว้กันนั้น อาจชวนให้สาวบางคนเคลิ้มฝันได้
แต่จะบอกให้ว่าคุณจะดูสะอาดกว่า ถ้าโกนหนวดเคราให้เกลี้ยง เกลา แต่หากดึงดัน
จะไว้แล้วล่ะก็ ขอให้รักษามันให้ดีด้วยการเล็มให้เป็นทรง อย่าให้ยาวรกราวกับป่าดงดิบ
จะดูสกปรกแถมยังน่ากลัวอีกต่างหาก
แม่สาวนักโชว์
เคยเห็นบ่อยทีเดียว สาวสมัยนี้ชอบโชว์เสียเหลือเกินไม่รู้เป็นอะไร
ใส่เสื้อซีทรูก็ไม่ยอมใส่เสื้อทับ ใส่เสื้อคอลึกจนเห็นถึงสะดือก็ไม่สนจำไว้เลยว่า
ผู้ชายน่ะสายตาเอ๊กซ์เรย์สุด ๆ ขนาดเราใส่ปิดมิดพวกเขายังมองลอดเข้าไปได้แล้ว
ถ้าคุณใส่ขนาดนี้ พวกเขาจะคิดกันไปถึงไหน ถ้าชอบโชว์นักเก็บไว้ ไปโชว์ยามคุณ
อยู่นอกที่ทำงานจะดีกว่า
หนุ่มสาวนักเจาะ
คนสมัยนี้นิยมการเจาะกันมากขึ้น จากแต่ก่อนซึ่งเจาะแค่หู
ต่อมาก็มีเจาะจมูก เจาะสะดือ เจาะคิ้ว เจาะลิ้นกันเต็มไปหมด ถ้าคุณทำงานเป็นนักร้อง
จะเจาะทั่วตัวก็คงไม่มีใครว่า แต่ว่าคนปกติในสังคมรับกันไม่ค่อยได้หรอก แถมยัง
มีการศึกษามาแล้วด้วยว่า คนที่เจาะตัวมากกว่า 2 จุดขึ้นไป มีแนว โน้มจะไม่ได้
รับเลือกเข้าทำงานมากกว่าคนที่ไม่มีการเจาะตามร่างกาย
เทคนิคการแต่งตัวให้สวย
ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่มีสรีระร่างกายบางส่วนไม่สวยมักประสบปัญหาการสวมใส่เสื้อผ้า บางทีเสื้อผ้าสวยงาม ยี่ห้อดี ๆ แต่พอซื้อมาใส่เองกลับดูไม่ได้เลย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เสื้อผ้า แต่อยู่ที่การเลือกชุดให้เข้ากันและการรู้จักตกแต่งเพิ่มเติม
หน้าอกโตลงด้วยเสื้อผ้าสีเข้ม
ผู้หญิงที่มีหน้าอกโตแล้วยังใส่เสื้อหลวม ๆ สีอ่อนมีลายยาวเป็นทาง แถมยังใส่กระโปรงสั้นเข้มอีก สิ่งที่ว่ามาทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ไปเน้นความใหญ่โตโอฬารของหน้าอก ที่ถูกต้องแล้วควรทำดังต่อไปนี้ สวมเสื้อที่มีสีเข้ม ยิ่งเป็นสีดำก็ยิ่งดี เสื้อที่ว่าไม่ต้องมีลายอะไรไม่ว่าลายขวางยาวหรือทางขวาง ที่สำคัญต้องเป็นเสื้อที่รัดรูป แล้วใส่คู่กับกระโปรงสีอ่อน ๆ ทั้งหมดนี้ช่วยช่อนรูปและพรางตาให้หน้าอกมีขนาดเล็กลง
ลดขนาดต้นแขนด้วยเสื้อแขน 3 ส่วน
ถ้าคุณมีต้นแขนที่ใหญ่โตเหมือนท่อนซุง การที่คุณจะใส่เสื้อแขนกุด สีโทนอ่อนนั้น ดูแล้วคงจะพิลึก ดังนั้น วิธีแก้ก็คือให้ใส่เสื้อแขน 3 ส่วนปกปิดต้นแขนที่ ใหญ่โตมโหฬารของคุณ และควรเลือกสีที่สดใส ฉูดฉาดเพื่อกลบเกลื่อนทรวดทรงที่ไม่สวยของคุณ
ก้นกระชับด้วยกางเกงรัดรูปสีดำ
สีเข้มสามารถกลบเกลื่อนความใหญ่โตของอวัยวะบางส่วนได้ ผู้หญิงที่ก้นใหญ่สามารถใช้ความจริงข้อนี้มาเป็นประโยชน์กับตัวเองได้ แทนที่คุณจะใส่กางเกงหลวม ๆ สีอ่อน ๆ แล้วไปเน้นความใหญ่ของก้นของคุณก็เปลี่ยนมาใส่กางเกงรัดรูปสีเข้ม ๆ สีดำยิ่งดี เพื่อพรางตาให้ดูเหมือนว่าก้นคุณไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย แต่ถ้าใส่สีเข้มทั้งเสื้อและกางเกงแล้วดูไม่ค่อยสดใสก็อาจใส่เสื้อสีโทนร้อนแรง เพื่อเพิ่มสีสันขึ้นก็ได้
ขาสวยด้วยกระโปรงสีโทนอ่อน ผู้หญิงที่มีขาที่ยาวและเล็กหรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่าขาตะเกียบ มักมีปัญหาเวลาสวมกระโปรงสั้นแค่เข่า เนื่องจากกระโปรงแบบนี้ คุณต้องโชว์เรียวขาของคุณ ยิ่งถ้ากระโปรงนั้นมีลีดำเข้าไปอีก ก็จะยิ่งดูไม่สวยมากขึ้นเพราะจะเน้นความเล็ก และยาวของขาคุณทางแก้คือให้หากระโปรงยาวเลยเข่าสีโทนอ่อน เช่น สีขาว สีเทา สีครีมมาใส่ เพราะว่าสีอ่อนสามารถพรางตาทำให้ดูเหมือนว่าคุณมีช่วงขาที่สมส่วน ถ้าได้ใส่เข้าคู่กับรองเท้าบู๊ตยาวประมาณเข่าที่ช่วยปิดบังท่อนขาช่วงล่างของคุณ ก็จะยิ่งดูดีขึ้นอีกเป็นกอง
วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552
แฟชั่นหน้าฝน


เพื่อนๆคะ ตอนนี้หน้าฝนแล้วมาดูแฟชั่นการแต่งตัวหน้าฝนกันดีกว่า
แฟชั่นหน้าฝน เทรนใหม่สไตน์สบาย ๆ
เทศกาลเที่ยวไทย ๕ ภาค สีสันสวรรค์ภาคกลาง
ภาคตะวันออก “เทศกาลเที่ยวไทย ๕ ภาค @ สีสันตะวันออก”
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “เทศกาลเที่ยวไทย ๕ ภาค @ สีสันแดนอีสาน”
ภาคเหนือ “เทศกาลเที่ยวไทย ๕ ภาค @ สีสันเมืองเหนือ”
ภาคใต้ “เทศกาลเที่ยวไทย ๕ ภาค @ สีสันเมืองใต้” และ
ภาคกลาง “เทศกาลเที่ยวไทย ๕ ภาค @ สีสันสวรรค์ภาคกลาง”
เพื่อสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
และยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย
ได้เป็นอย่างดีอันจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
และส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างยั่งยืน
เทศกาลเที่ยวไทย ๕ ภาค @ สีสันสวรรค์ภาคกลาง
วันที่ 18 - 20 กันยายน 2552 ณ บริเวณศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ
ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กิจกรรมในงาน
1. การสาธิตและจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล (OTOP) สินค้าหัตถกรรม
ของดี Hi-Light ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ
เช่น ผ้าบาติก-นราธิวาส / ร่มบ่อสร้าง-เชียงใหม่ เป็นต้น และการประชาสัมพันธ์
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของแต่ละจังหวัดโดยจัดกิจกรรมภายในตัวอาคารศูนย์ฯ
2. การสาธิตและจำหน่ายอาหารพื้นบ้านหรือร้านอาหารเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียง
ของจังหวัด ซึ่งสามารถนำมาเป็นภาพลักษณ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวของท้องถิ่นได้
เช่น เนื้อโพนยางคำ-สกลนคร / แหนมเนือง-หนองคาย / ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันทร์-จันทบุรี เป็นต้น
โดยจัดกิจกรรมบริเวณรอบ สระพญานาค
3. การประชันกันชุดต่อชุดของสุดยอดวงดนตรีลูกทุ่ง เวทีชิงช้าสวรรค์โรงเรียนทุ่งเสลี่ยมชนูปถัมภ์
กับแชมป์เวทีไทอย่าง มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา วงลูกทุ่งชื่อดังจากเมืองปากน้ำโพ
ณ.เวทีใหญ่กลางแจ้งในวันที่ 19 ก.ย.2552
4. มหกรรมการแสดงนาฎศิลป์อิสาน ชมการแสดงจากวิทยาลัยนาฎศิลป์กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด
และนครราชสีมาซึ่งจะมาขึ้นเวทีพร้อมกันทั้งสามสถาบัน
และจะมาสร้างความบันเทิงภายในงานในวันที่ 20 ก.ย.2552
5. พบการแสดงของศิลปินนักร้องนักแสดงชื่อดังได้ทุกวัน เช่น สุรชัย สมบัติเจริญ / ธานินทร์ อิทรเทพ /
พี สะเดิด / นกน้อย อุไรพร / กุ้ง สุธิราช / ตลกชวนชื่น /ลิเกคณะกระต่ายขาว เป็นต้น
6. ชมการแสดงหลากหลายรูปแบบทั้งแบบประเพณีวัฒนธรรมทั่วไทย เช่น เพลงฉ่อย เพลงเรือ
เพลงอีแซว หมอลำ และการแสดงร่วมสมัย เช่น อัลคาซ่าร์ ทิฟฟานีโชว์ การแสดงมายากล เป็นต้น
ณ. เวทีภายในอาคารจัดแสดงงาน ตั้งแต่ช่วงถึงเย็นของทุกวัน
งานแข่งเรือยาวนานาชาติและเรือยาวประเพณีประเทศไทย ครั้งที่ 21
วันที่ 19 - 20 กันยายน 2552
ณ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
การแข่งเรือนานาชาติและเรือยาวประเพณีประเทศไทยครั้งที่ 21 นี้ ททท. ร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธา ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สมาคมเรือพายแห่งประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมกิจกรรมและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการอนุรักษ์การแข่งเรือยาวประเพณีของไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์และมรดกมายาวนาน ซึ่งในทุกๆปีจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
ในการแข่งขันครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่
- เรือนานาชาติ
(22ฝีพาย) โดยในปีนี้มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันรวม 14 ทีม จาก 9 ประเทศ
ได้แก่จีน พม่า มาเลย์เซีย สิงคโปร์ ฟิลิปินส์ ออสเตรเลีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทยร่วมส่ง 3 ทีม
- เรือยาวประเพณี
เรือยาวใหญ่ 55 ฝีพาย คัดเลือกทีมเรือจากทั่วประเทศ 12 ทีม
แข่งชิงถ้วพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เรือยาวเล็ก 30 ฝีพาย คัดเลือทีมดีกรีแชมป์จากสนามต่างๆทั้งหมด 16 ทีม
แข่งชิงถ้วพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
โดยวันที่ 19 - 20 กันยายน 2552 จะมีการถ่ายทอดสดบรรยากาศการแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.30 น. ทางเว็บไซต์
www.tourismthailand.org ส่วนรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 20 กันยายน 2552 จะถ่ายทอดสด ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป
กิจกรรม
- ชมฟรี...สนุกกับการเชียร์ในสนามทุกวัน และ ถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมตลอดรายการที่ www.tourismthailand.org
- แข่งขันเรือยาวนานาชาติ (เรือหงส์ 22 ฝีพาย) จากทีมเรือประเทศต่างๆ 9 ประเทศ
- แข่งขันเรือยาวประเพณีไทย (ประเภท 30 และ 55 ฝีพาย) พบกับสุดยอดฝีพายทีมเรือทั่วประเทศ ภาคเหนือ กลาง อีสาน ใต้
- ท่องเที่ยวศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกมากมาย